5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการกินอาหารเพื่อสุขภาพ

ปัจจุบันนี้หลายคนเริ่มหันมาใส่ใจกับสุขภาพและการดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการสรรหาวิธีกินอย่างไรให้สุขภาพดีด้วยการเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ก็ยังมีความเชื่อผิดๆ ที่หลายคนยังคิดว่าถูกต้องอยู่ หรือบางคนอาจไม่รู้เพราะเชื่อคำที่ว่า “เขาว่ากันว่า” ซึ่ง Thai InnoFood หวังว่า 5 สิ่งที่เรานำมาบอกนี้จะช่วยขจัดทุกความเชื่อผิดๆ ให้ออกไปจากตัวคุณกัน

1. งดคาร์โบไฮเดรตแล้วจะผอม

หลายคนที่กำลังหันมาดูแลตัวเองด้วยการลดความอ้วน รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพโดยใช้วิธีงดคาร์โบไฮเดรตเพื่อหวังว่าจะช่วยให้ผอมเร็ว เราอยากบอกว่านั่นคือความเชื่อที่ผิด เพราะร่างกายคนเราจำเป็นต้องรับคาร์โบไฮเดรต 3 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวันเป็นอย่างน้อย ซึ่งคาร์โบไฮเดรต 1 กรัม ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่

คาร์โบไฮเดรตเป็นพลังงานที่สำคัญต่อร่างกาย เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะแปรเปลี่ยนเป็นไกลโคเจนและถูกเก็บสะสมไว้ในร่างกาย หากเราไม่ได้รับประทานอะไรเข้าไป ร่างกายก็จะดึงพลังงานส่วนนี้มาใช้ แต่หากมีมากจนเกินไปแล้วไม่ได้ถูกเผาผลาญเลยก็จะกลายเป็นไขมันสะสม

หากถามว่าถ้าเราไม่รับประทานคาร์โบไฮเดรตเลยจะเป็นอย่างไร? คำตอบก็คือ ร่างกายของเราจะไม่มีพลังงานมาใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อไม่มีพลังงานจากไกลโคเจนของคาร์โบไฮเดรต ร่างกายก็จะดึงพลังงานไกลโคเจนจากกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายมาใช้แทน เมื่อไกลโคเจนจากกล้ามเนื้อถูกดึงไปใช้งานมากๆ เราจะรู้สึกว่าน้ำหนักลดลง ซึ่งจริงๆ แล้วน้ำหนักเราไม่ได้ลดลงเพราะเรางดคาร์โบไฮเดรต แต่น้ำหนักลดลงเพราะกล้ามเนื้อเราหดลงและน้ำในร่างกายต่างหากที่หายไป เนื่องจากไกลโคเจนจากกล้ามเนื้อถูกดึงไปใช้นั่นเอง ซึ่งถือว่าไม่ดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เพราะส่งผลให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานช้าลง ทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ สุดท้ายอาจเกิดอาการโยโย่เข้ามาแทนนั่นเอง ดังนั้นแล้วไม่ควรงดคาร์โบไฮเดรตอย่างเด็ดขาด และควรศึกษาประเภทของคาร์โบไฮเดรตให้ดีก่อนทำการลดน้ำหนัก

2. กินช็อคโกแลตแล้วสิวขึ้น

กินช็อคโกแลตแล้วสิวขึ้น ประเด็นนี้หลายคนคงได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งขอบอกเลยว่าไม่เป็นความจริง โดยเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ช็อคโกแลตทำมาจากเมล็ดโกโก้ผสมกับเนย นม น้ำตาล ฯลฯ และจากผลงานการวิจัยของ Dr. Albert Kligman จาก University of Pennsylvania ที่ได้ทำการทดลองคน 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่รับประทานขนมที่ทำจากช็อคโกแลตจริง กับกลุ่มที่รับประทานขนมที่ทำกลิ่นและรสชาติเลียนแบบช็อคโกแลต ซึ่งผลการทดสอบปรากฏว่า ทั้ง 2 กลุ่มมีอัตราการเกิดสิวไม่ต่างกัน สรุปได้ว่าช็อกโกแลตไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดสิวโดยตรง แต่อาจเกิดจากนม น้ำตาล หรือส่วนผสมอื่นๆ ที่อยู่ในช็อคโกแลตนั่นเอง ความจริงแล้วช็อคโกแลตยังมีประโยชน์ต่อผิวพรรณของเราอีกด้วย โดยเฉพาะดาร์คช็อคโกแลต ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงกว่าผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นอาจเกิดไขมันสะสมไม่รู้ตัว

3. คนท้องควรดื่มน้ำมะพร้าวทุกวัน

หลายความเชื่อที่บอกต่อกันว่าคนท้องควรดื่มน้ำมะพร้าวทุกวันเพราะเมื่อเวลาคลอดลูก ตัวเด็กจะได้ไม่มีไขเกาะติด หรือมีไขติดตัวน้อย ไขเป็นสีขาว หรือดื่มน้ำมะพร้าวมากๆ จะทำให้ลูกมีผิวขาวใส บอกเลยว่าเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะตามธรรมชาติแล้วเด็กทุกคนต้องมีไขมันห่อหุ้มตัว ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร และการดื่มน้ำมะพร้าวในขณะตั้งครรภ์ทุกวันนั้น ความจริงแล้วเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงมากกว่าเสียด้วย เพราะในน้ำมะพร้าวมีปริมาณน้ำตาลสูง เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้ หรือคุณแม่ที่มีภาวะเสี่ยงต่อครรภ์เป็นพิษก็ไม่ควรดื่มน้ำมะพร้าวเอาเสียเลย

จริงอยู่ที่น้ำมะพร้าวมีประโยชน์ต่อคุณแม่ที่ตั้งครรภ์จริง เพราะช่วยบำรุงหัวใจ ลดอาการท้องผูก ผิวพรรณสดใส แต่ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องดื่มทุกวัน เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าอาจทำให้เป็นโรคเบาหวานได้ และควรดื่มน้ำมะพร้าวที่สดใหม่ เปิดแล้วควรดื่มให้หมดภายในครั้งเดียว

4. กินผักสดดีกว่าผักปรุงสุก

ผักเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่หลายๆ คนเลือกรับประทานกัน และหลายคนก็มีความเชื่อว่าผักปรุงสุกจะทำให้คุณค่าทางสารอาหารลดลง เราอยากบอกว่านั่นคือความเชื่อที่ผิด เพราะผักบางชนิดเมื่อปรุงสุกแล้วให้คุณค่าทางสารอาหารได้ดีกว่าการรับประทานแบบสดๆ อีกด้วย เช่น

  • หน่อไม้ฝรั่ง : ควรทานแบบปรุงสุกเพราะหน่อไม้ฝรั่งมีโฟเลตสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเกิดมะเร็ง มีส่วนช่วยในการขับปัสสาวะ รักษาโรครูมาติซึม โรคเส้นประสาทอักเสบ เมื่อปรุงสุกแล้วร่างกายสามารถซึมซับสารอาหารได้ดีกว่า
  • มะเขือเทศ : ควรทานแบบปรุงสุก เนื่องจากในมะเขือเทศมีไลโคปีนสูง สามารถละลายได้ดีในน้ำมัน เมื่อปรุงสุกร่างกายก็สามารถดูดซึมไลโคปีนได้ดีกว่าการรับประทานแบบดิบนั่นเอง
  • ผักโขม : ควรทานแบบปรุงสุก เพราะสามารถช่วยเพิ่มแคลเซียม ธาตุเหล็ก และแม็กนิเซียมได้

5. ดื่มน้ำผลไม้ 100% ช่วยดีท็อกซ์สารพิษได้ดี

การดื่มน้ำผลไม้ 100% ทุกวันช่วยดีท็อกซ์สารพิษได้ดีก็จริง แต่การรับประทานผลไม้สดช่วยดีท็อกซ์สารพิษในร่างกายได้ดีกว่า เพราะในผลไม้สดมีกากใย มีส่วนช่วยในการขับถ่าย ซึ่งน้ำผลไม้แบบ 100% บรรจุกล่องที่เราดื่มทั่วไปผ่านกระบวนการระเหยต่างๆ และเติมน้ำให้ได้สัดส่วน ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ทำให้สูญเสียสารอาหารและวิตามินต่างๆ ไป บางเจ้าอาจมีการเติมวิตามินหรือสารอาหารลงไปเพิ่มเพิ่มทดแทนแต่ก็ยังไม่เทียบเท่าผลไม้สดอยู่ดี แนะนำว่าหากใครอยากดีท็อกซ์ร่างกายหรือกำลังลดความอ้วนให้รับประทานผลไม้สดจะดีกว่า

Share this post